ปี พ.ศ. 2556 ซึ่งเป็นยุคแห่งการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญของเขื่อนเชี่ยวหลาน การท่องเที่ยวในประเทศไทยเริ่มเติบโตอย่างรวดเร็ว กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ได้มีการจัดระเบียบและเปิดโอกาสให้ภาคเอกชนยื่นแบบแปลนเพื่อขออนุญาตดำเนินกิจการ สร้างแพที่พักสำหรับนักท่องเที่ยวในพื้นที่อ่างเก็บน้ำเขื่อนรัชชประภา ซึ่งถือเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ของพื้นที่นี้

 

ก่อนหน้านั้นชาวบ้านในพื้นที่ได้รับอนุญาตให้ดำเนินกิจการแพพักแบบธรรมชาติเรียบง่าย เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวในจังหวัดหลังการสร้างเขื่อนเสร็จสิ้น ต่อมามีการศึกษาวิจัย “ขีดความสามารถในการรองรับของพื้นที่” หรือที่เรียกในทางวิชาการว่า Carrying Capacity (CC) เพื่อกำหนดจำนวนผู้ประกอบการแพพักอย่างเหมาะสม ผลการศึกษาทำให้มีการอนุญาตให้ประกอบกิจการแพพักในเขื่อนเชี่ยวหลานได้เพียง 11 แห่ง
โดยมีเงื่อนไขตามข้อกำหนดของกรมอุทยานฯ ซึ่งในระยะแรกได้อนุญาตแก่ผู้ประกอบการเดิมจำนวน 7 รายก่อน จากนั้นจึงพิจารณาเพิ่มเติมรวมเป็น 12 ราย ในเวลาต่อมา

​

แพพันวารีย์ ซึ่งได้รับสิทธิ์จากแพเดิมคือ "แพต้นน้ำ" ที่คุณ ณัฐนวรรธ ศักดา (ประกอบการอยู่เดิม) จึงได้มีการเริ่มมีการเปลี่ยนแปลงก่อสร้างแพ(แบบใหม่ที่ต้องได้มาตราฐานตามระเบียบของกรมอุทยาน) กำหนด  เมื่อสร้างเสร็จขึ้นมาใหม่ ก็ได้เปลี่ยนชื่อเป็นแพพันวารีย์ รีสอร์ท คล้ายกับชื่อของคุณแม่ของคุณ ณัฐนวรรธ ศักดา คือ คุณวารี ศักดา เนื่องจากคุณณัฐนวรรธ ศักดา มองว่า"คุณแม่" คือบุคคลสำคัญที่ให้ตนหยิบยืมเงินสร้างแพ ส่วนที่เหลือได้สำเร็จ

 

ท่ามกลางเสียงต่อต้านของครอบครัว เกี่ยวกับการดำเนินธุรกิจนี้  จนเมื่อปีพ.ศ. 2556 แพพันวารีย์ รีสอร์ท โซนแรก ก็สร้างเสร็จโดยได้ไปตั้งบริเวณ “ปากคลองโหลง” ซึ่งเป็นคลองเดิมที่ แพต้นน้ำตั้งอยู่ ในอ่างเก็บน้ำเขื่อนรัชชประภา จ.สุราษฎร์ธานี  เป็นบริเวณที่มีความเป็นธรรมชาติอุดมสมบูรณ์ เงียบสงบและมีทัศนียภาพที่งดงามมากๆทำเลที่ตั้งของแพพันวารีย์ นั้นถูกต้องตามหลักโหราศาสตร์

​

• ด้านหน้า จะเป็นผืนน้ำกว้างไกล (Lake view).

• ด้านหลัง เป็นภูเขาสลับกับหน้าผาหินปูนสูงชัน (Mountain view)